KBO gives a special lecture to high school students CSR มุ่งมั่นปลูกฝังคุณธรรมสู่เยาวชนของชาติ (โปรดอ่านภาษาไทยด้านล่าง) Knowing Buddha Organization was invited to provide a moral lecture to over 400 high school students at Nawaminthrachinuthit Bodindecha School with a coordination of school alumni, Mr. Chanin and Mrs.Korrawee Laojirakorn on August 27, under the topic “Precepts, meditation and wisdom: Keys to a prosperous and successful life.” After an introduction to the organization, the first session of lecture started with an explanation about the Five Precepts (refraining from killing or harming living things, stealing, sexual misconduct, lying or gossip and taking intoxicating substances.) Having worked in an entertainment industry for years, Mr. Ariyatouch Den-udom, the first lecturer, told the students of what he has seen, a cycle of superstar, from a nobody stepping to be on the spotlight and then be an infamous one at last. This is a solid example of impermanence. He added that Dhamma is about nature and energy. When we act goodly or badly to someone, we will received goodness and badness in return. Thus, holding the Precepts can prevent us from receiving bad consequences. The second lecturer, Mrs. Nalin Rungnapaprai, also emphasized that Karma or action can be compared to throwing a ball against the wall. The ball, as a bad or good thing, naturally bounces back. As explained by the first lecturer that the Precepts is a way to stop bad Karma, she gave students a knowledge on how to cultivate good deeds through the Ten Meritorious Acts, for instance, offering alms, forgiving, respecting others, doing volunteer works and paying gratitude to parents, and teachers as well as meditating. Students and teachers also have a chance to practice basic meditation for a short period before watching a video about disrespecting Buddha images and symbols that has happened over the world these days. Another volunteer, Mrs. Benjapat Wongpaibool presented about our works to stop these wrong and misunderstanding acts. To their surprise, students were interested to the video of as they haven’t known about this before. They also listened to a real successful case to stop inappropriate acts by giving right understandings to the doer from Ms. Atthama, one of KBO’s volunteer.
Knowing Buddha Organization 21 November 2018
------
องค์กรโนอิ้ง บุดด้า ได้รับเชิญจากโรงเรียนนวมินทราชินูทิศบดินทรเดชา ให้จัดธรรมบรรยายเพื่ออบรมศีลธรรม จริยธรรม และฝึกสมาธิให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายประมาณ 400 คนได้รับฟัง ในหัวข้อ “ชีวิตรุ่งเรืองด้วยศีล สำเร็จด้วยสมาธิและปัญญา” ซึ่งการบรรยายในครั้งนี้ทีมงานได้รับการช่วยประสานงานจาก คุณชนินทร์และคุณกรวีร์ เหล่าจิรกร ศิษย์เตโชวิปัสสนาซึ่งเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียน นี่คือความรู้สึกของคุณชนินทร์หลังจบงานธรรมบรรยาย “เมื่อทราบว่าทีมงาน CSR ต้องการศิษย์เก่าหรือใครที่สามารถประสานกับทางโรงเรียนเพื่อเข้าไปบรรยายธรรมนั้น ข้าพเจ้ารีบติดต่อทีมงานเพื่อขอเอกสารที่จำเป็นต้องใช้และติดต่ออาจารย์ประจำชั้นเมื่อครั้งที่เรียนชั้น ม.6 คือ อาจารย์กัลยา สกุลแก้ว อาจารย์ตัดสินใจปรึกษากับหัวหน้าระดับชั้น ม.6 และกำหนดวันเวลาให้ทันที รอแค่ผู้อำนวยการโรงเรียนเซ็นอนุญาต แค่เพียงไม่กี่วันก็ได้รับข่าวดี อาจารย์กัลยาบอกกับข้าพเจ้าทั้งสองว่า "ครูเชื่อว่าศิษย์เก่าทั้งสองจะนำสิ่งดี ๆ กลับมาให้โรงเรียน" ข้าพเจ้าปลื้มใจและดีใจมากที่ได้ตอบแทนคุณของอาจารย์และของโรงเรียน นับเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมฟังการบรรยายของทีมงาน ทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่า ทีม CSR ทุกคน ทุ่มเทและเสียสละมากกว่าที่เราคิด เริ่มตั้งแต่การติดต่อและอธิบายเจตนารมณ์ให้แต่ละโรงเรียนอนุญาต การต้องบรรยายธรรมให้เด็ก ๆ วัยนี้ฟัง ทำยังไงให้เด็ก ๆ สนใจ ต้องเจอกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ข้าพเจ้าขอยกย่องในความเสียสละและจิตกตัญญูของทีมงานที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อหว่านเมล็ดพันธุ์และปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้องให้กับเยาวชน” คุณลัคพงศ์ เพิ่มพูน Stage Manager กล่าวเปิดงาน แนะนำองค์กรฯ และวัตถุประสงค์ แนะนำทีมงานจิตอาสา ประวัติท่านประธานองค์กรฯ ผลงานที่ผ่านมาของท่าน และการได้รับรางวัลเสาอโศกผู้นำศีลธรรม ในฐานะผู้ที่ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง และนำเข้าสู่การบรรยายว่า ในวันนี้เราจะมาหยุดบัญชีบาป และจะมาเพิ่มบัญชีบุญกันได้อย่างไร วิทยากรท่านที่ 1 คุณอริย์ธัช เด่นอุดม ได้กล่าวนำถึงเรื่องตัวเองที่ทำงานในวงการโทรทัศน์มานาน ได้เห็นวงจรของดารา นักแสดง การเกิด (ยังไม่ดัง) จากนั้นก็ดัง แล้วก็ดับ เป็นเช่นนี้ ธรรมะเป็นเรื่องของธรรมชาติ เป็นเรื่องของพลังงาน ไม่ว่าเราจะทำอะไรลงไปก็ตาม สิ่งนั้นจะมีผลตีกลับมาหาเราเสมอไม่ช้าก็เร็ว ฉะนั้นในการดำเนินชีวิตให้เป็นปกติเราจะต้องมีศีลเป็นตัวกำกับ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น วิทยากรได้ยกตัวอย่างเด็กแว้นที่มีแนวคิดที่ไม่ปกติและแข่งรถส่งเสียงเบียดเบียนผู้อื่น จากนั้นนำเข้าเรื่องศีลข้อที่ 1. การไม่ฆ่าสัตว์ ด้วยการเล่านิทานเรื่องเด็กเกเร โทษของการผิดศีลข้อที่ 2. การไม่ลักทรัพย์ โดยเล่าเรื่องจริงที่ตัวเองได้พบเห็นมา พ่อค้าโกงค่าแปลหนังสือ มีลูกเป็นผู้มีสติปัญญาบกพร่อง เงินที่โกงมาต้องนำมารักษาลูกเป็นการชดใช้ ศีลข้อที่ 4. ไม่พูดปด การลอกการบ้านเพื่อนแล้วบอกครูว่าทำเอง สิ่งนี้ไม่ควรประพฤติเป็นอย่างยิ่งถึงแม้เพื่อนจะให้ลอกก็ตาม ศีลข้อที่ 5. ไม่ดื่มสุราและของมึนเมา การผิดศีลข้อนี้จะทำให้ขาดสติ เสียสภาพและมีผลทำให้ศีลอีกสี่ข้อบกพร่องได้ง่าย เมาปุ๊บทำสิ่งที่ผิดศีลได้ทุกอย่าง กลับมาศีลข้อที่ 3. การประพฤติผิดในกาม ได้ฉายวีดิทัศน์ เรื่อง “ที่ไปของชายเจ้าชู้” ให้ได้ชม คุณโบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์ ศิษย์เก่าบดินทรเดชาและเป็นนักแสดงนำในวีดิทัศน์ ได้เสียสละเวลาส่วนตัว มาร่วมเป็นหนึ่งในจิตอาสาให้กับองค์กรฯ ได้ให้ข้อคิดในการผิดศีลข้อนี้ว่า ในสังคมไทยมีการเข้าใจผิดมาอย่างยาวนาน ผู้ชายที่มีอำนาจเป็นเจ้าขุนมูลนายมีภรรยาหลายคน และทำต่อ ๆ กันมา เป็นประเด็นที่ปวดร้าวในสังคมไทยมาอย่างช้านาน และมองเป็นเรื่องปกติที่จะมีได้ มีแล้วเท่ นั่นคือความเข้าใจผิดที่จะนำคุณไปสู่นรกได้ ผู้หญิงก็เช่นเดียวกัน การเป็นคนเจ้าชู้ มีแฟนหลายคน ก็ตกนรกเหมือนกัน ความเชื่อที่ผิด ๆ แบบนี้ขอให้เลิก วิทยากรท่านที่ 2 คุณนาลิน รุ่งนภาไพร ได้แนะนำตนเองที่จบการศึกษาพยาบาลศาสตร์ ทำงานด้านวิจัยพัฒนายาและวัคซีน ได้กล่าวนำในเรื่องวิบากกรรม จะมีทั้งกรรมดีกรรมชั่ว แต่วันนี้จะกล่าวถึงกรรมชั่วเท่านั้น เนื่องจากกรรมดีมันดีอยู่แล้ว กรรมคือการกระทำ เปรียบเสมือนเวลาเราขว้างลูกฟุตบอลออกไปชนกับผนัง ลูกฟุตบอลจะกระเด้งกลับทันที ดังนั้นหากเรากระทำสิ่งใดสิ่งนั้นจะมีผลถึงเราเฉกเช่นเดียวกัน action เท่ากับ reaction เสมอ มันเป็นกฎธรรมชาติไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และหากว่าการกระทำนั้นหรือการขว้างลูกฟุตบอลนั้นไปโดนหัวใครเข้า แล้วเขาโกรธเอาเรื่อง เขาก็จะกลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่ตามจองเวรเราไม่เลิก จนกว่าเขาจะได้รับการชดใช้จนเขาพอใจ เราเกิดมาหลายภพชาติแล้วและเราจำไม่ได้หรอกว่า เราได้ทำกรรมกับผู้ใดไว้บ้าง แต่ก็ได้มีมหาบุรุษพระองค์หนึ่ง ก็คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานี่เอง ที่ได้ทรงชี้แนะแนวทางแก้ไขและป้องกัน ให้เรามีชีวิตที่ปลอดภัยและเจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป นั่นคือ การรักษาศีล เพื่อหยุดบัญชีบาป ซึ่งได้กล่าวไปแล้วโดยวิทยากรท่านแรก ต่อไปคือการเพิ่มบัญชีบุญ หนึ่งในนั้นก็คือบุญกิริยาวัตถุ 10 บุญข้อที่ 1. ทาน จะบริบูรณ์ก็ต่อเมื่อทานที่ให้นั้นต้องบริสุทธิ์ ไม่ลักขโมยมา และระหว่างให้ทานนั้น มีความเลื่อมใสศรัทธา และเมื่อทำไปแล้วเกิดความปลาบปลื้มปีติ อามิสทาน เช่น การใส่บาตร ใหญ่ขึ้นมาก็เป็นสังฆทาน วิหารทาน และ อภัยทานเป็นทานที่มีอานิสงส์สูงสุด อภัยให้เขาอย่างหมดใจ ถึงแม้เขาจะทำแบบเดิมยังคงให้อภัย ปรารถนาให้เขามีความสุขมีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่าเรา บุญข้อที่ 2. คือการรักษาศีล บุญข้อที่ 3. ภาวนา เป็นการชำระจิตให้บริสุทธิ์ จิตเรามีความสกปรกด้วยกิเลส ตัณหา หากเราภาวนาทำจิตให้นิ่งได้ จิตช่วงนั้นจะปราศจากกิเลส ความโลภ โกรธ หลง ถือเป็นอานิสงส์สูงที่สุด จากนั้นได้ให้ชมวีดิทัศน์ Spiritual Life ซึ่งสอนโดยท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล บรรยายถึง เรื่องจิตวิญญาณ และการเจริญสมาธิแบบอานาปานสติ แล้วให้น้อง ๆ ฝึกเบื้องต้นร่วมกัน บุญข้อที่ 4. การอนุโมทนาบุญ เป็นการยินดีด้วยกับบุญที่เขาทำ เป็นการลดทิฐิ ตัวตนของเรา บุญข้อที่ 5. การแบ่งบุญ เช่น การเข้าปฏิบัติธรรม 7 วัน ถือว่าบุญสูงมาก สามารถแบ่งบุญได้ ไม่ใช้คำว่าอุทิศบุญ การอุทิศบุญจะใช้เมื่อเราภาวนา 1 ชั่วโมงแล้วอุทิศบุญเป็นต้น บุญข้อที่ 6. บุญจากการแสดงความเคารพบุคคลที่ควรเคารพด้วยจิตที่นอบน้อม ชาติวุฒิ วัยวุฒิ คุณวุฒิ จากนั้นให้น้องนักเรียนทั้งหมดลุกขึ้นแสดงความเคารพต่อครูอาจารย์ด้วยความนอบน้อม บุญข้อที่ 7. การทำสาธารณประโยชน์ ทำจิตอาสา ทำกิจเพื่อพระศาสนา บุญข้อที่ 8. การฟังธรรม อย่างเช่นเราได้มาฟังธรรมวันนี้ หากพลาดพลั้งตกนรกอย่างเช่นเด็กเกเร จะได้ตอบพญายมราชได้ว่า เราเคยฟังธรรมแล้ว ดังนั้นการฟังธรรมจึงถือว่าเราได้สะสมบุญ บุญข้อที่ 9. การแสดงธรรม หากเราเอาไปเล่ากับเพื่อน ในการมาฟังธรรมในครั้งนี้ ว่าการสะสมพลังบุญนั้นทำได้อย่างไรบ้าง ก็ถือว่าเราได้แสดงธรรมกับเพื่อนก็จะได้บุญด้วย บุญข้อที่ 10. การทำความเห็นให้ตรง มีสัมมาทิฐิ คือเชื่อว่าบุญบาปมีจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว วิทยากรเสริม คุณเบญจม์ภัทร วงศ์ไพบูลย์ กล่าวแนะนำตัวเองว่า เป็นทันตแพทย์และให้ข้อคิดว่า การที่เราจะประสบความสำเร็จนั้น เราต้องเป็นผู้ที่มีความรู้และมีคุณธรรม ได้กล่าวถึงองค์กรโนอิ้ง บุดด้า ในการปกป้องพระสัญลักษณ์ พระรูป และพระนาม โดยให้ศึกษาจากเคสลบหลู่ที่เกิดขึ้นจริงตามภาพที่ฉายขึ้นจอโพรเจกเตอร์ ที่รวบรวมการกระทำลบหลู่ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งนักเรียนให้ความสนใจเป็นอย่างมากเหมือนกับว่าไม่เคยรับรู้มาก่อนว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นจริง คุณโบวี่ อัฐมา ได้อธิบายถึงเคสหนึ่งที่เธอได้ไปพบ ขณะที่กำลังหาบ้านพักที่ญี่ปุ่นผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งมีรูปภาพห้องพักที่นำเอาพระเศียรของพระพุทธรูปมาเป็นของตกแต่ง จึงตัดสินใจจองบ้านพัก เพื่อที่จะได้มีโอกาสพูดคุยอธิบายกับเจ้าของบ้านถึงการกระทำอันไม่เหมาะสมนี้ และได้ปรึกษาทีมงานองค์กรโนอิ้ง บุดด้า ผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ควรอธิบายให้ความรู้กับเขาอย่างไร และในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ โดยเจ้าของบ้านพักได้แสดงความเสียใจและกล่าวขอโทษ ทั้งจะนำพระเศียรของพระพุทธรูปออกจากการตกแต่ง และลบรูปภาพที่ไม่เหมาะสมออกด้วย เป็นความโชคดีของเหล่าน้องนักเรียน ที่ได้รับฟังเคสที่เกิดขึ้นจริง และความพยายามที่จะแก้ไขของคุณโบวี่ อัฐมา ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีงามให้น้อง ๆ ได้ถือเป็นแนวทางปฏิบัติ เมื่อได้พบเหตุการณ์เช่นนี้ด้วยตนเอง หรือสามารถแจ้งเคสลบหลู่ที่พบเห็นมาได้ที่องค์กรโนอิ้ง บุดด้า และร่วมสนับสนุนการรณรงค์ได้ที่ www.5000s.org
สรุปการบรรยายโดย : คุณนาลิน รุ่งนภาไพร คุณลัคพงศ์ เพิ่มพูน